วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ประวัติของสบู่สมุนไพร


เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

"ขณะนั้นกระแสย้อนยุคกำลังเริ่มเป็นที่นิยม"

สถานที่เที่ยวย้อนยุคเกิดขึ้นอย่างมากมาย จึงมีแนวความคิดที่จะผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวันให้อิงกระแสย้อนยุคและสามารถทำการตลาดย้อนยุคได้ นั่งคิดนอนคิด ตกลงทำสบู่สมุนไพร เพราะใจชอบสบู่และสมุนไพรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จากนั้นเริ่มศึกษาเรื่องสบู่ สำรวจตลาด ซื้อสบู่สมุนไพรที่มีขายตามท้องตลาดมาใช้แทบทุกแบรนด์ เริ่มหาโรงงานผลิต จนได้โรงงานที่ถูกใจ เป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรผลิต มีมาตรฐานการผลิตที่ดี ข้อสำคัญเป็นโรงงานที่สะอาดมาก อีกเรื่องที่ประทับใจสุด คือเจ้าของโรงงานอายุเยอะแล้ว แต่ยังเท่ห์ ใจดี สไตล์โก๋หลังวัง เข้ากับบรรยากาศสบู่ย้อนยุคได้พอดี
มาถึงเรื่องแบรนด์ "ครูศรี" เรื่องแบรนด์ครูศรี ข้อนี้ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเดิมตั้งใจจะใช้ชื่อ  "ครูศรี" (แม่) อยู่แล้ว ครูศรีเกิด พ.ศ.2476 อายุขณะนั้น 78 ปี พอดีกระนั้นครูศรีเป็นคนที่ดูไม่แก่และจะไม่ยอมแก่เป็นอันขาด อัดทั้งเครื่องสำอางค์และอาหารเสริม ทำให้ดูแล้วอ่อนกว่าวัยมาก ครูศรีเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความจำที่ดีมาก ในด้านสุขภาพของครูศรีนั้น สามารถเดินขึ้นบันไดชั้น 3 เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของห้องนอนหลานสาว (ลูกน้องสาวครูศรี)  ครูศรีรักหลานมาก ช่วยเก็บข้าวของ จัดห้องนอนใหม่ให้เรียบร้อย วิธีจัดห้อง "จัดแบบตามใจครูศรีแต่ไม่ตามใจหลาน" จนบางครั้งเจ้าของห้อง ยังงง?? หาของในห้องตัวเองไม่เจอ เพราะครูศรีเก็บของให้เป็นระเบียบมิดชิดและปลอดภัยมากๆ ด้านความจำ ครูศรีมีความจำที่ดีมาก สามารถจดจำคำชมเชยของผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ "ดูไม่แก่นะ"
การใช้ชื่อ ครูศรี เป็นแบรนด์ นอกจากจะไม่เสียค่าลิขสิทธิ์แล้ว ยังมีความคิดว่าหากครูศรีไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ต้องซื้อตั๋วเดินทางไปภพอื่น เวลาคิดถึงครูศรีจะได้เห็นหน้าครูศรีตามท้องตลาดทั่วไป แต่ถ้าดูตามลักษณะครูศรีแล้ว คงยังอีกนาน แต่เพื่อความไม่ประมาท ตอนนี้ก็เริ่มฝึกนั่งสมาธิแล้ว "หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน" ครูศรีต้องออกเดินทางด่วน จะได้ทำสมาธิถอดจิตไปส่งครูศรีในภพภูมิที่ดีได้

"สบู่สมุนไพร"


นอกจากเป็นสบู่ที่ใช้ชำระล้างร่างกายแล้วยังใช้เป็นตัวเชื่อมกลับไปสู่ภาพบรรยากาศเก่าๆในอดีตของคนในวัย 40 ปี ขึ้นไป 


ปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเสียชีวิตช้าลง ด้วยความก้าวหน้าด้านการแพทย์และแพทย์ทางเลือก แต่จะทำอย่างไร ให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ อยู่อย่างแข็งแรงและมีความสุข ปัจจัยหลักสำคัญที่จะลืมไม่ได้ คือ ด้านจิตใจ ความเหงา โรคภัยไข้เจ็บ ความกลัวตาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ปัจจุบันลูกหลานที่อยู่ในวัยทำงาน ไม่ค่อยมีเวลา บ้างก็แยกครอบครัวไปอยู่ต่างหาก ทำให้โอกาสที่จะดูแล และให้เวลาพ่อแม่น้อยลงมาก อินเตอร์เน็ตจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถให้ความรู้ ความบันเทิง และเป็นเพื่อนแก่ผู้สูงอายุ โดยที่ไม่ต้องออกไปนอกบ้าน ช่วยคลายความเหงา ความเครียดแก่ผู้สูงอายุ ฉะนั้นวันนี้เว็บไซต์ครูศรี จึงขอนำเสนอสาระ ความบันเทิงให้แก่ทุกท่านที่สนใจ โดยหวังว่าจะให้ความสุขแก่ผู้ชมไม่มากก็น้อย.